อาณาจักร Disney ใหญ่แค่ไหน ดิสนีย์ บริษัทในเครือ มีอะไรบ้าง ?

ดิสนีย์ บริษัทในเครือ คุณรู้หรือไม่ว่า ESPN, ABC, Pixar, Lucasfilm และ Marvel ต่างก็เป็นเจ้าของโดย Disney นอกจากนี้ Disney ยังเป็นเจ้าของสวนสนุก รีสอร์ท และธุรกิจอื่นๆ มากมาย ทำให้อาณาจักรของ Disney นั้นยิ่งใหญ่กว่าที่เราจะจินตนาการได้ ดังนั้นบทความนี้จะ พาคุณนำเสนอรายชื่อบริษัทที่ Disney เป็นเจ้าของ ทำให้เราเห็นภาพเครือข่ายขนาดใหญ่นี้ชัดเจนขึ้น

ชัดเจนยิ่งกว่าข้างต้น มีบริษัทอื่นๆ ที่ดิสนีย์เป็นเจ้าของ เนื่องจากชื่อบริษัทประกอบด้วยคำว่า “Disney” จึงหมายถึง Disney Television Channel, Disney Stores, Disney Radio Station และ Disney Parks (Walt Disney World Resort, Disneyland Resort, Disneyland Paris, Disney Cruise Line และรวมถึงธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง) การท่องเที่ยว) และนี่คือภาคส่วนที่สร้างผลกำไรสูงสุดให้กับดิสนีย์

ดิสนีย์มีธุรกิจมากแค่ไหน? บริษัทหลายร้อยแห่งแทบจะเป็นเจ้าของโดย Disney แต่สิ่งที่สำคัญและน่าสนใจเป็นพิเศษก็คือ Disney มีความสนใจในบริษัทอื่น ๆ นอกเหนือไปจากบริษัทที่เป็นเจ้าของ

 

ดิสนีย์ บริษัทในเครือ เป็นเจ้าของแต่เราไม่เคยรู้มาก่อน

 

  • ดิสนีย์ บริษัทในเครือ Maker Studios: เป็นบริษัทโปรดักชันสำหรับช่องยูทูบยอดนิยม ซึ่งถูกพับเก็บไปหลังจากประสบปัญหาอยู่สองสามปี

  • Steamboat Ventures : เป็นบริษัทร่วมลงทุนที่ลงทุนใน Startup ชั้นนำของเว็บไซต์ยอดนิยมบางเว็บ เช่น GoPro, Photobucket รวมถึงโซเชียลมีเดียและบริษัทเกมของจีน

  • นอกจากนี้ Disney ยังเป็นเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายสิบแห่ง ตั้งแต่ Aulani ไปจนถึงท่าเรือ Canaveral ในรัฐฟลอริดา

  • เครือข่ายสื่อระหว่างประเทศ เช่น ATV, RTL 2, RDS, Tele 5 และ Kividoo อาจไม่ค่อยได้ยินชื่อเท่าไรนัก แต่ก็เป็นธุรกิจใหญ่ธุรกิจหนึ่งของ Disney ในต่างประเทศ

  • บริษัท Earth Star เป็นบริษัทสำหรับเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวเพื่อรับ-ส่งคณะผู้บริหารของ Disney และยังมีบริษัทการจัดการที่ชื่อว่า Synergy Group อีกด้วย

 

ESPN เจ้าแห่งลิขสิทธิ์กีฬา

 

ในเรื่องนี้ ธุรกิจหลักของดิสนีย์คือการผลิตช่องรายการเพื่อขายให้กับเคเบิลทีวี ด้วยช่องกีฬาที่เราคุ้นเคยอย่าง ESPN เป็นแหล่งรายได้หลัก รองลงมาคือ Disney Channel Walt Disney เป็นเจ้าของ 80% ของ ESPN, Hearst Corporation เป็นเจ้าของ 20% และมีหลายช่องในเครือ โดยเฉพาะ ESPN2 ซึ่งแต่ละช่องมีสมาชิก 90 ล้านคนในสหรัฐอเมริกา

ช่องย่อยอื่น ๆ ยังเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ของสมาชิก 60 ล้านคนและ ESPN Famous Sports สหรัฐอเมริกามีเคเบิลทีวีที่แตกต่างกันมากที่สุด ในสหรัฐอเมริกา คุณต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์เป็นจำนวนมาก ช่อง ESPN ซึ่งมีสมาชิก 146 ล้านคนนอกสหรัฐอเมริกา เป็นบริษัทร่วมทุนกับ Sony Pictures Networks โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากอินเดีย ตามมาด้วยอเมริกาใต้

 

Disney Channel เพื่อคุณหนู

 

ใครก็ตามที่เป็นทารกหรือเด็กวัยหัดเดินคงเคยดูดิสนีย์แชนแนลซึ่งมีสมาชิกมากกว่า 90 ล้านคนในสหรัฐอเมริกาและช่องย่อยเกือบ 100 ช่องที่ให้บริการผ่านผู้ให้บริการเคเบิลทีวีทั่วโลก สำหรับการลงทุนในเครือข่ายเคเบิลในต่างประเทศนั้น ปัจจุบันมีเพียงช่องทีวีของอินเดีย เช่น UTV/Bindaas และ Hangama นอกเหนือจาก ESPN Freeform ซึ่งเดิมชื่อ ABC Family มีสมาชิกมากกว่า 90 ล้านรายในสหรัฐฯ และธุรกิจเครือข่ายเคเบิลรวมถึงการลงทุนใน BAMTech

 

อาณาจักรคู่แข่งในวงการสื่อ

 

เมื่อถูกถามว่า Disney เป็นเจ้าของ Universal Studios หรือไม่ คำตอบคือไม่ อันที่จริง Universal Studios เป็นคู่แข่งกับ Disney มาช้านาน Universal Pictures ก่อตั้งขึ้นในปี 1912 ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของ Disney Disney เป็นเจ้าของหรือไม่ คำตอบคือไม่ อีกทั้ง Universal Studios และ DreamWorks ต่างก็เป็นเจ้าของโดยกลุ่มสื่อที่ Comcast เป็นเจ้าของ NBCUniversal Comcast เป็นเจ้าของ NBC ตั้งแต่ Telemundo ถึง Syfy

อีกบริษัทที่เป็นเจ้าของทั้งหมดนี้ก็คือ Time Warner ซึ่งเป็นเจ้าของ HBO, Warner Bros., CW, DC Comics และ AOL ดังนั้น Disney จึงไม่ใช่อาณาจักรสื่อขนาดใหญ่เพียงแห่งเดียว

 

ธุรกิจ Broadcasting ในสหรัฐ

 

Broadcasting หรือธุรกิจฟรีทีวี มีหัวหอกอย่างช่อง ABC เป็น 1 ใน 6 ช่องฟรีทีวีใหญ่ที่สุดในสหรัฐ มีพันธมิตรเป็นสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นกว่า 244 สถานี และเป็นเจ้าของสถานีเอง 8 แห่ง อีกทั้งยังรับผลิตรายการให้เจ้าอื่นๆ โดยปีที่ผ่านมาบริษัทผลิตละครให้กับ Netflix จำนวน 4 เรื่อง และ Hulu อีก 1 เรื่อง

 

ลงทุนในช่องโทรทัศน์และสื่ออื่นๆ

 

ดิสนีย์ยังได้ร่วมลงทุนกับหลายบริษัท บริษัทไม่ว่าจะเป็นสื่อดั้งเดิมหรือสื่อใหม่

  • A+E Television Network – Disney ลงทุนฝ่ายละ 50% ใน Hearst Corporation โดยที่ A+E เป็นเจ้าของช่องสารคดีที่มีชื่อเสียง เช่น History Channel หรือช่องอื่นๆ เช่น Lifetime
  • Vice – A+E ลงทุน 18% ใน Vice Group แต่ 50% ใน Vice Group บริษัทลูก Viceland และ Disney และยังมีธีมเฉพาะสำหรับกลุ่มอีกด้วย
  • CTV – Disney ถือหุ้น 30% ในโทรทัศน์ของแคนาดาซึ่งเป็นเจ้าของช่องกีฬาเช่น TSN หรือ RDS และช่องทีวีหลายช่อง
  • Hulu – บริษัทแพลตฟอร์มคู่แข่งของ Netflix ลงทุน 30%
  • Seven TV – ในรัสเซีย Disney ลงทุน 20% เพื่อออกอากาศเนื้อหา

 

ธุรกิจสวนสนุก

 

ดิสนีย์ บริษัทในเครือ พูดถึง Disney จะไม่พูดถึง Disneyland  ไม่ได้ ซึ่งสวนสนุก ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจหลัก บางแห่งจะมีโรงแรมสำหรับพักด้วย โดยสำหรับ Resort และสวนสนุกที่ทาง Disney เป็นเจ้าของเองได้แก่

  • Walt Disney World Resort ที่ ฟลอริดา สหรัฐอเมริกา
  • Disneyland Resort ที่ แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
  • Disneyland ปารีส ฝรั่งเศส
  • Aulani Disney Resort & Spa ที่ ฮาวาย สหรัฐอเมริกา

นอกเหนือจากนั้นจะเป็นสวนสนุกที่ทาง Disney ได้ร่วมลงทุน

  • Hong Kong Disneyland Resort  Disney ได้ลงทุนไป 47% ที่เหลือคือทางเกาะฮ่องกงเป็นผู้ลงทุน
  • Shanghai Disney Resort  Disney ได้ลงทุนไป 43% ที่เหลือคือทาง Shanghai Shendi เป็นผู้ลงทุน

ส่วนด้าน Tokyo Disney Resort บริษัทได้ให้สิทธิ์แก่บริษัทในญี่ปุ่นคือ The Oriental Land Company เป็นคนจัดการและดูแล ฉะนั้นรายได้ของสวนสนุกที่โตเกียวจะไม่ได้เข้ามารวมในงบเหมือนสวนสนุกอื่นๆ

ส่วนธุรกิจอื่นๆ ในส่วนธุรกิจสวนสนุก ก็มี Disney Vacation Club และ Adventures by Disney รวมไปถึง Disney Cruise Line บริการเรือสำราญท่องเที่ยว

 

บทความแนะนำ